บลีช เทพมรณะ การเปรียบเทียบ และข้อแตกต่างระหว่างมังงะ กับอนิเมะ

บลีช เทพมรณะ หนึ่งในซีรีส์อนิเมะที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ระหว่างการดัดแปลงจากมังงะเป็นอนิเมะ

บลีช เทพมรณะ มังงะจากนักเขียนชื่อดัง ไทโตะ คูโบะ หรือนามปากกาว่า คูโบไทต์ เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยม มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ในที่สุดซีรีส์เหนือธรรมชาตินี้ ก็ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมะ ด้วยแฟนๆ ที่ติดตามและยอดขายที่ทำลายสถิติ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในบิ๊กทรีของวงการมังงะสายโชเน็น และทางด้านของ สตูดิโอปิเอรอต ก็ก้าวเข้าสู่ภารกิจการดัดแปลงเป็นอนิเมะ โดยเริ่มแรกมีเป้าหมายที่จะทำเนื้อเรื่องและตัวละคร ให้เหมือนแหล่งข้อมูลเดิมมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

แต่ทว่าแผนการ และความคิดเดิมของสตูดิโอปิเอรอต ก็ไม่ได้ทำเหมือนกับสิ่งที่เคยบอกไว้ทั้งหมด ที่ว่าจะคงความเป็นต้นฉบับจากเนื้อเรื่องและตัวละคร เพราะว่าจากที่ได้บทสรุป ของมังงะและอนิเมะ เรื่องราวของเทพมรณะ มีการตีความที่แตกต่างกันสองแบบ แม้ว่าความแตกต่างเหล่านี้ จะไม่ถือว่ารุนแรงและส่งผลต่อเนื้อเรื่องมากนัก แต่ก็สังเกตเห็นได้ชัดเจนพอ ที่จะตั้งคำถามสำคัญหลายข้อ เกี่ยวกับลำดับการเล่าเรื่อง และการพัฒนาของตัวละคร

บลีช เทพมรณะ

โดยข้อมูลทั้งหมดที่เราจะพูดถึงวันนี้ เป็นข้อมูลที่อัปเดตเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2022 โดยแฟนการ์ตูนที่ได้ดูอนิเมะ บลีช…เทพมรณะ ภาคสงครามเลือดพันปี ได้รับไฟเขียวให้สร้างเป็นอนิเมะในปี 2020 สี่ปีหลังจากมังงะจบอย่างเป็นทางการ ตอนแรกเปิดตัวในวันที่ 11 ตุลาคม 2022 เพื่อกระตุ้นแฟนด้อมที่ซบเซา และนำการ์ตูนเรื่องนี้ กลับมาอยู่ภายใต้ความนิยมอีกครั้งของอนิเมะ ในขณะที่อนิเมะเรื่องนี้เพิ่งเริ่มออกอากาศ แฟนการ์ตูนก็สังเกตเห็นความแตกต่างหลายอย่าง จากมังงะแล้ว

โดยที่ข้อสังเกตอันดับแรกเลยนั้น อยู่ที่ตัวละคร คูคาคุ ชิบะ ซึ่งในมังงะนั้นเขาไม่มีแขนเทียม ต้องบอกว่าคุณสมบัติอย่างหนึ่ง ที่ช่วยให้เทพมรณะโดดเด่นในหมู่มังงะรุ่นเดียวกัน คือการออกแบบตัวละครที่ไม่เหมือนใคร ของคูโบไทต์ เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่า ตัวละครทุกคนจะดูแตกต่างและเป็นของจริง มังงะเรื่องนี้ใช้ลักษณะใบหน้า แบบเดียวกันของ ไคเอน ชิบะ และ อิจิโกะ คุโรซากิ เหมือนกับปืนของเชคอฟ ซึ่งเป็นการวางแผนอุปกรณ์ที่จะเกิดผลในภายหลัง

ซึ่งตัวละครคูคาคุ น้องสาวของไคเอ็น เป็นหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นที่สุดในเรื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแขนที่ด้วนของเธอ แต่ว่าในอนิเมะ คูคาคุใช้แขน-ขาเทียม เพื่อทำให้ชีวิตของเธอง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีแขนและขาเทียมในมังงะต้นฉบับ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าผิดหวัง เพราะคูคาคุเป็นตัวละครยอดนิยมมาโดยตลอด อีกทั้งมีการลดบทบาทของตัวละคร อิชชิน เพราะเขายังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับอิจิโกะ และน้องสาวของเขาเมื่อจำเป็น อิชชินไม่ได้ไร้เดียงสา อย่างที่อนิเมะบรรยายตัวละครนี้

อีกทั้งตัวละครที่ไม่ใช่ตัวหลักๆ ก็มีการลดบทบาทลงเช่นกัน ในเรื่องของตัวละครสมทบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวถึง อย่างเช่น บรรดาเพื่อนสนิทและสมาชิกในครอบครัวของอิจิโกะ ก็มีบทบาทสำคัญในเนื้อเรื่องของมังงะ ตัวละครที่น่าหลงใหลอย่าง ยาสุโทระ ซาโดะ และอุริว อิชิดะ ซึ่งไม่ได้ฉายแววในอนิเมะมากนัก ในความเป็นจริงแล้ว แม้แต่ความสนใจในความรัก และความสัมพันธ์ที่กำลังเติบโตของอิจิโกะ ก็ยังปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นในมังงะ

ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงตัวละคร ก็มีการเพิ่มตัวละคร ที่ไม่เคยมีในมังงะ ซึ่งจะมีในอนิเมะเท่านั้น

ซึ่งตัวละครบางตัวจากอนิเมะ ไม่เคยปรากฏในมังงะเลยแม้แต่น้อย ทั้งรูปร่างและลักษณะต่างๆ ตัวอย่างเช่น ชูสุเกะ อามาไก ที่มีอยู่ในส่วนเนื้อเรื่องในตอน กัปตันคนใหม่…ชูสุเกะ อามาไก เท่านั้น ซึ่งมีแต่แฟนอนิเมะเท่านั้น ที่อาจคิดว่าตัวละครนี้เป็นตัวการสำคัญในมังงะ เนื่องจากเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของซีซั่น 9 ไม่มีส่วนในเรื่องดั้งเดิมของคูโบไทต์ แต่ในที่สุดวายร้ายตัวนี้ ก็กลายเป็นหนึ่งในตัวละครยอดนิยม ดังนั้นจึงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า การตัดสินใจของสตูดิโอ ในการสร้างส่วนเติมเต็มนั้น ไม่มีมูลความจริงเลย

และก็ยังมีตัวละครอีกบางตัว ที่ไม่เคยปรากฏอยู่ในมังงะเลย อย่างมุรามาสะ ซึ่งเป็นวิญญาณของซัมปาคุโตะ และนอกเหนือจากตัวละครใหม่ ก็ยังมีเนื้อเรื่องที่ไม่เคยมีในมังงะด้วย อย่างเช่นชื่อตอนว่า สิบสามหน่วยพิทักษ์ ประจัญบาน เป็นตอนเสริมที่ไร้จุดหมายที่สุดในเรื่อง ผู้ชมบางคนอาจชอบตอนนี้ ในขณะที่อีกหลายคนไม่สามารถทนต่อเนื้อเรื่อง ที่มันผิดไปจากมังงะได้ รวมถึงแนวคิดไร้สาระ ที่ทำลายกรอบการเล่าเรื่องโดยรวม จากต้นฉบับเดิมในมังงะ

มีเรื่องราวที่แตกต่างกันมากมาย ระหว่างการดัดแปลงจากมังงะ หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่พูดถึงกันมากที่สุดคือ การไม่มีเลือดสาดในอนิเมะ ทุกอย่าง ตั้งแต่ปริมาณเลือดที่แสดงบนหน้าจอ ไปจนถึงฉากการต่อสู้ที่น่าสยดสยอง ไปจนถึงการแสดงการตายของตัวละครบางตัว ถูกลดทอนลงจากแหล่งต้นฉบับเดิม แต่ก้เข้าใจได้ว่าเป็นหลักเกณฑ์ และระเบียบการเซ็นเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนส่วนใหญ่สามารถเข้าใจได้ แต่มันก็ดูเป็นเรื่องแปลก ที่จะเห็นใครบางคนแกว่งดาบผ่านคู่ต่อสู้ และไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วน

เมื่อพูดถึงการต่อสู้ ส่งที่น่าผิดหวังอีกอย่างก็คือ  ในอนิเมะมีการใช้เวลาในการต่อสู้ และมีรายละเอียดที่น้อยกว่ามังงะ โดยมังงะมีแสดงการต่อสู้แต่ละครั้ง ด้วยศิลปะที่น่าทึ่งและ ไคอาโรสคูโร (ศิลปะแห่งการใช้แสงเงา) มากมาย ซึ่งเป็นเอฟเฟกต์ภาพ ที่ผสมผสานแสงและเงา เพื่อสร้างผลกระทบที่โดดเด่น การต่อสู้ของเคมปาจิ และอุโนะฮานะ มีความสำคัญอย่างยิ่งในแง่นี้ แต่ในทางตรงกันข้าม การตู้ในอินเมะ มันดูห้วน และไม่ค่อยมีรายละเอียดจากรากเหง้าของมังงะ 

แต่แน่นอนว่า การดัดแปลงเป็นอนิเมะนั้น มันก็มีข้อดีอยู่เยอะมาก แม้ว่าฝีมือการเขียนของคุโบะ จะไม่มีใครเทียบได้ แต่ในตอนของสงครามเลือดพันปี ที่มันเป็นถาพเป็นขาวดำ เป็นเวลาหกปี ก็กลับมามีชีวิตชีวาและมีสีสันในอนิเมะ พร้อมการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล และที่แน่ๆ ก็คือไม่ต้องมาเปิดอ่านกันทีละหน้า manga-alice.com