ต้องลุ้นกันถึงตอนจบ ใครจะเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของลูฟี่? ในตอนจบของวันพีซ

ต้องลุ้นกันถึงตอนจบ ในที่สุดก็เข้าสู่การผจญภัยครั้งสุดท้ายของวันพีซ ด้วยทฤษฎีและการคาดเดา ใครกันที่จะเป็นคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของลูฟี่?

ต้องลุ้นกันถึงตอนจบ สำหรับมังงะที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน จนถึงขั้นได้ทำลายสถิติโลกของตัวเองเรียบร้อย แน่นอนว่าในการ์ตูนเรื่องวันพีซ โดยได้ทำลายสถิติเดิมที่เคยมี และได้รับรางวัลใหม่จาก บันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ว่าเป็น “ซีรีส์การ์ตูนที่ตีพิมพ์มากที่สุดโดยผู้เขียนคนเดียว” ที่แต่งโดยเออิจิโร โอดะ และเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1997 ซึ่งมียอดขายมากกว่า 500 ล้านเล่มทั่วโลก ในช่วงเวลาของสถิติก่อนหน้าในปี 2014 ซีรีส์ดังกล่าวได้จำหน่ายไปแล้ว 320,866,000 ชุด

ด้วยบทที่มากกว่าหนึ่งพันบท ผลงานชิ้นเอกจากการผจญภัยโจรสลัด ที่เดินทางมายาวนานกว่า 25 ปี หลังจากที่หายไปนานหนึ่งเดือน ในช่วงต้นฤดูร้อนที่ผ่านมา และก็ได้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้ เกือบทุกส่วนสำคัญของแต่ละบทนั้น ก็จบลงด้วยการต่อสู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจ  มักจะจบลงด้วยลูฟี่สามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เมื่อซีรีส์ใกล้จบลง แฟนๆ ต่างคาดเดากันอยู่เสมอว่า ใครคือคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของลูฟี่ และก็มีการคิดรวมถึงคาดเดาคู่ที่เป็นไปได้ สำหรับกัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง

ต้องลุ้นกันถึงตอนจบ

คนแรกที่อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ของลูฟี่ ซึ่งเป็นตัวละครที่หลายคนคาดเดากันมากที่สุด นั่นก็คือมาร์แชล ดี ทีช หรือที่เรียกันว่า “หนวดดำ” ซึ่งอาจเป็นความเป็นไปได้ในทฤษฎีมากที่สุด สำหรับคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของลูฟี่ การสังหารเพื่อนร่วมทีมของหนวดดำ ในช่วงเวลาที่เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว นำไปสู่เหตุการณ์ที่ส่งผลให้ เอซ น้องชายของลูฟี่เสียชีวิต เหตุผลที่หนวดดำฆ่าแทช เพราะเขาครอบครองผลไม้ปีศาจ ที่ให้ผู้ใช้ควบคุมความมืด ซึ่งเป็นสิ่งที่หนวดดำแสวงหามาตั้งแต่เด็ก

และเอซก็ได้ออกเรือเพื่อไล่ตามเขา ส่งผลให้เขาถูกจับ และเสียชีวิตด้วยน้ำมือของกลุ่มนาวิกโยธิน หนวดดำเล่นเกมยาวรอคอยเวลาของเขา จนกว่าจะถึงเวลาที่เขาจะโจมตี เขาเป็นคนลับๆ ล่อๆ แต่มีความทรงพลังมากๆ ด้วยการเปิดเผยล่าสุดว่าผลไม้ของลูฟี่ มีความสามารถของเทพแห่งดวงอาทิตย์ สัญลักษณ์ของการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างและความมืด ทำให้การจับคู่ของสองคนที่จะต้องปะทะกันนั้น เป็นไปได้มากทีเดียว

แม้ว่าหนวดดำอาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ ที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเอซโดยตรง แต่พลเรือเอกอาคาอินุ ที่ฆ่าเขาจริงๆ การถูกประหารชีวิตของเอซ เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับเหตุการณ์ใน สงครามซัมมิท ซึ่งกับตันเรือของเอซที่ชื่อ โจรสลัดหนวดขาว ได้ปิดล้อมสำนักงานใหญ่ทางทะเลของมารีนฟอร์ด เพื่อช่วยชีวิตเขา ในระหว่างการต่อสู้ที่ตามมา อาคาอินุได้กระตุ้นให้เอซต่อสู้แบบตัวต่อตัว หลังจากที่เขาเย้ยหยัน กัปตันของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาว

อาคาอินุครอบครองผลไม้ปีศาจ ที่ทำให้เขาควบคุมแม็กม่าได้ ถึงแม้ว่าเอซจะครอบครองผลไม้ปีศาจ ซึ่งทำให้เขาควบคุมไฟได้ แต่พลังที่แท้จริงของผลปีศาจของอาคาอินุ ก็มีความทรงพลังมากกว่าของเอซ เมื่ออาคาอินุแยกตัวจากการต่อสู้กับเอซ เพื่อฆ่าลูฟี่ เอซได้ปกป้องน้องชายของเขา ด้วยร่างกายของเขาเอง ส่งผลให้เขาเสียชีวิต ขณะที่ลูฟี่หนีมารีนฟอร์ด อาคาอินุก็ทำร้ายเขาอย่างรุนแรง ทำให้ลูฟี่มีรอยแผลเป็นรูปกากะบาต ที่หน้าอกของเขา

การเดินทางที่ยาวนานมากของกลุ่มหมวกฟาง ทำให้ต้องเจอกับศัตรูที่หลากหลาย รวมถึงคนที่ไม่คิดว่าจะต้องมาเป็นคู่ต่อสู้ของลูฟี่ ในตอนสุดท้ายของเรื่อง

อีกหนึ่งตัวละครที่อาจจะต้องเจอก็คือ บักกี้ ที่เป็นหนึ่งในศัตรูกลุ่มแรกๆ ที่ลูฟี่ต่อสู้ในเรื่องตั้งแต่บทแรกๆ เรื่องราวของบักกี้ แสดงให้เห็นความคู่ขนานกับของลูฟี่ ในขณะที่ลูฟี่แข็งแกร่ง กล้าหาญ และเรียบง่าย แต่บักกี้กลับอ่อนแอ ขี้ขลาด และเจ้าเล่ห์ ลูฟี่ต่อสู้ฝ่าฟันสถานการณ์ที่บาดใจ สร้างเส้นทางที่สร้างด้วยความแน่วแน่ล้วนๆ ในขณะที่รถบักกี้เป็นตัวอย่าง ของคนที่ล้มลุกคลุกคลาน

หลังจากช่วยเหลือลูฟี่ในการแทรกซึม และหลบหนีจากอิมเพลดาวน์ เรือนจำที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก บักกี้ได้รับผู้ติดตามเขามาหลายคน ในช่วงสงครามซัมมิท เมื่อมีการเปิดเผยว่า เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ ระหว่างสงครามเดียวกันนั้น เขารอดชีวิตจากการเผชิญหน้ากับนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แดร็กคูล มิฮอว์ก โดยอาศัยข้อเท็จจริงง่ายๆ ว่าผลปีศาจของเขาทำให้เขาแยกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีอย่างหนักหน่วงของมิฮอว์ก

และหลังจากสงคราม เขาได้รับเชิญให้เข้าร่วมเจ็ดขุนศึก ซึ่งเป็นกลุ่มที่รัฐบาลรับรองโจรสลัด และเผยแพร่อิทธิพลของเขาต่อไป บักกี้ใช้อิทธิพลนี้เพื่อสร้างบริษัทขนส่งสินค้า ทำให้เขาตั้งหลักอยู่ในยมโลก ซึ่งเป็นตลาดมืด หลังจากที่ลูฟี่เอาชนะชิจิบุไกอีกคน ดองกิโฮเต้ โดฟลามิงโก้ พลังของบักกี้ในยมโลกก็เพิ่มขึ้นมาก หลังจากความพ่ายแพ้ของบิ๊กมัมและไคโด สองในสี่จักรพรรดิแห่งท้องทะเล บั๊กกี้ก็กลายเป็นหนึ่งในจักรพรรดิองค์ใหม่ 

ในบทล่าสุดเปิดเผยออกมาว่า บั๊กกี้ได้กลายมาเป็นผู้นำของครอสกิลด์ ซึ่งเป็นองค์กรที่มอบรางวัลให้กับนาวิกโยธิน ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาคือ อดีตขุนศึกมิฮอว์ค และครอกโคไดล์ แม้ว่ารายละเอียดต่างๆ ที่ได้กล่าวมานี้ยังไม่ปรากฏให้เห็นชัด และแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจ การกระทำของลูฟี่ ก็อาจจะนำไปสู่การท้าทายอำนาจของบั๊กกี้โดยตรง

แต่ถ้าพูดถึงตอนแรกๆ ของเรื่องราวทั้งหมดนี้ หากไม่มีลูฟี่ บักกี้ก็ไม่สามารถบรรลุความสำเร็จได้ และน่าจะยังคงถูกคุมขังในอิมเพลดาวน์ เรื่องราวของพวกเขาผูกพันกันอย่างแยกไม่ออก ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับคู่ต่อสู้คนสุดท้าย ซึ่งมังงะได้วางจำหน่ายแล้วกว่า 1,000 ตอนของการผจญภัยทางทะเลอันแสนสนุก แต่ดูเหมือนว่า ส่วนสุดท้ายของเรื่องจะมาถึงแล้ว…

หลังจากเสร็จสิ้นการปลดปล่อยดินแดนวาโนะ จากการกดขี่ของยอนโกะ ไคโด ลูฟี่และกลุ่มหมวกฟางก็มุ่งหน้าไปยังเกาะใหม่ เพื่อค้นหาโร้ดโพเนกลีฟสุดท้าย  โพเนกลีฟสีแดงทั้งสี่นี้ เป็นข้อมูลเพื่อไปถึงลาฟเทล เกาะสุดท้ายในแกรนด์ไลน์ และสถานที่ที่อยู่ของวันพีซ manga-alice.com